รีวิว the great hack แฮ็กสนั่นโลก 2019 หนังน่าดูพร้อมข้อคิดดีๆ ใน netflix

สวัสดีครับ ชาวแฮ๊กเกอร์ แฮ็กสนั่นโลก 2019 วันนี้เราจะมาแนะนำ หนังสนุกNetflix ที่ไม่ควรพลาด พิมพ์ในเน็ตฟิกส์หรือกดคลิกคำว่า the great hack ในnetflix ก็สามารถดูแบบถูกลิขสิทธิ์ได้แล้ว แต่ก่อนที่จะไปดูหนัง เราจะมารีวิวหลังดูจบให้ทุกคนได้อ่านกันก่อนเลย วันนี้ขอสปอยกันบ้างแล้วกันมันอดไม่ได้กับข้อคิดในภาพยนต์จริงๆ เพราะมันสำคัญมากๆ เนื้อเรื่องย่อจะเป็นอย่างไรนั้น ไปอ่านกันเลยครับ

รีวิวหนัง the great hack แฮ็กสนั่นโลก 2019

หากคุณเป็นคนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ออนไลน์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ แล้วคุณเคยคิดบ้างไหมว่าข้อมูลแสดงตัวตนของเรามีค่าและมีค่าแค่ไหน?
เตรียมหาคำตอบ 24 ก.ค. นี้ กับ The Great Hack สารคดีใหม่ของ Netflix จาก Karim Amer และ Jihan Nogem สองดูโอที่เคยส่งผลงานเรื่อง The Square เผยให้เห็นว่าปี 2011-2013 มีอีกด้านของอียิปต์ที่หลายคนไม่เห็น ในการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในปี 2019 จนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากออสการ์
The Great Hack สำรวจการเปิดเผยว่า Cambridge Analytica บริษัทวิจัยการเลือกตั้งดึงข้อมูลส่วนตัวจากบัญชี Facebook 87 ล้านบัญชี และใช้เพื่อการวิเคราะห์ทางการเมืองและการแสวงประโยชน์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเขา ยกตัวอย่างเช่นการเลือกตั้งประธานาธิบดีทรัมป์ และ Brexit
เรื่องย่อ the great hack แฮ็กสนั่นโลก 2019
เขาเอาข้อมูลของเราไป ควบคุมเรา “The Great Hack” เปิดโปงด้านมืดของการละเมิดข้อมูล การเดินทางส่วนตัวผ่านกลุ่มคนที่หลากหลายซึ่งนำเสนอหลังจากข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับข้อมูลผู้ใช้ Facebook รั่วไหลไปยัง Cambridge Analytica
เรื่องนี้กำกับโดย David Carroll ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบสื่อซึ่งเป็นผู้นำในการฟ้องร้อง Cambridge Analytica และ Brittany Kaiser อดีตพนักงานของ Cambridge Analytica ที่ออกมาเปิดโปงกระบวนการของบริษัท นอกจากการสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหรือได้รับผลกระทบแล้ว คู่กรณีเช่น Facebook และ Cambridge Analytica ก็มีส่วนร่วมด้วย
แฮ็กสนั่นโลก

มีเนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยมแต่ติดที่ความซับซ้อน

เพิ่มการฟ้องร้องที่เข้มข้นและซับซ้อนซึ่งดูเหมือนจะไม่จบลงง่ายๆ มาทบทวนไปพร้อมๆ กัน ดังนั้น ข้อมูลใดที่เราเปิดเผยให้ทุกคนทราบ ตั้งแต่จำนวนครั้งที่เว็บไซต์สมัครใช้บริการกับโซเชียลมีเดีย แอป แบบทดสอบ ฯลฯ และมูลค่าเท่าใดที่สามารถแปลงเป็นข้อมูลที่เราถือว่าเป็นความลับหรือไม่เกี่ยวข้อง
และน่าจะช่วยกลับมาทบทวนว่าเรามักง่ายเกินไปที่จะกดปุ่ม “ยอมรับ” ในโลกออนไลน์หรือไม่
ใครที่ชอบดูอย่างน้อยควรรู้สักนิดเกี่ยวกับการทดลองใช้ Facebook ขอแนะนำให้อ่านบทความของการจับคู่นี้ก่อน ประเด็นร้อน: ข้อมูลผู้ใช้ 50 ล้านคนของ Facebook, Cambridge Analytica และ Donald Trump รั่วไหล
กล่าวโดยสรุป Facebook ถูกพบว่าขายข้อมูลของผู้ใช้ 50 ล้านคนในสหรัฐฯ ปล่อยให้การหาเสียงของทรัมป์ซึ่งนำโดยบริษัทอังกฤษชื่อ Cambridge Analytica กลั่นกรองข้อมูลและวางแผนที่จะจัดการกับการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับการเลือกตั้ง หรือไม่ยุติธรรมที่ทีมทรัมป์ใช้เทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อช่วยเล่นงานฐานข้อมูลที่ได้มาอย่างผิดกฎหมายโดยความร่วมมือกับ Facebook
แฮ็กสนั่นโลก

เป็นสารคดีที่จะทำให้รู้เบื้องหลัง

ในบรรดาพวกเขา เมื่อพิจารณาจากโอกาสของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เราเห็นในข่าว ตัวเอกอาจเป็นตัวเอก เช่น คณะกรรมการสอบสวนต่างๆ และจำเลย เช่น ผู้บริหาร Facebook Mark Zuckerberg และคนอื่นๆ
แต่สารคดี The Great Netflix เรื่องนี้จะทำให้เรารู้เบื้องหลังกระบวนการสอบสวนของนักข่าว เสรีภาพของผู้สนับสนุนข้อมูลและอดีตพนักงานของ Cambridge Analytica ที่ออกมาเปิดโปงบริษัทของตนถือเป็นส่วนสำคัญและอาจไม่ใช่เบอร์ต้นๆ ในพาดหัวข่าว หากคุณสนใจเรื่องราวดังกล่าวจากกรณีอื้อฉาวการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี 2559 เหล่านี้ทำให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี เรื่องราวจะเติมเต็มจินตนาการและเติมเต็มข่าวสาร
เราจะเห็นสงครามจิตวิทยาที่รุนแรงพอๆ กับอาวุธทางทหาร ในกรณีของการเลือกตั้งในตรินิแดด พวกเขาอาจสงสัยว่า แค่ได้รับข้อมูลของเรา มันจะเปลี่ยนโลกแห่งความเป็นจริงหรือไม่? ลองมาดูตัวอย่างของประเทศตรินิแดดซึ่งมีการแข่งขันการเลือกตั้งระหว่างชาวแอฟริกันซึ่งเป็นกลุ่มสังคมหลักสองกลุ่ม และกลุ่มชาติพันธุ์อินเดีย Cambridge Analytica อ้างว่าเขารณรงค์ให้ Team India และชนะด้วยวิธีที่ไม่มีใครเทียบได้
ซึ่งการเคลื่อนไหวไม่ลงคะแนนนั้นเจ๋งมาก คือการแสดงจุดยืนของคนรุ่นใหม่ในการต่อต้านการเมืองที่น่าเบื่อ มันเหนือจริง เพราะเขาใกล้เคียงกับพฤติกรรมของคนหนุ่มสาวในตรินิแดดที่ชาวแอฟริกันมักจะเป็นตัวของตัวเองและเดินตามกระแสเสรีนิยมนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วสำหรับหนุ่มสาวอินเดียด้วย แต่การวิจัยเชิงพฤติกรรมแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแม้แต่วัยรุ่นอินเดียก็มีความคิดเห็น ยังไงเขาก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งของพ่อแม่ ผลคืออินเดียชนะในขณะที่แอฟริกาทำคะแนนตกในประเภทเยาวชน ดีมาก!
แฮ็กสนั่นโลก

การดำเนินเรื่องภาพยนต์ the great hack แฮ็กสนั่นโลก 2019

การดำเนินเรื่อง หนัง แฮกเกอร์
ย้อนกลับไปที่ Cambridge Analytica
กระบวนการแสวงหาประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลเริ่มต้นในปี 2559 แต่กลายเป็นเรื่องใหญ่เมื่อ Facebook เปิดเผยในภายหลังว่า Cambridge Analytica (CA) ใช้ข้อมูลผู้ใช้แทนการลบข้อมูลตามที่สัญญาไว้ บัญชีผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบ 87 ล้านบัญชีที่ถูกเข้าถึงโดย CA โดยที่พวกเขาไม่รู้และไม่ยินยอม
คำถามนี้ทำให้ Facebook เชื่องช้า และล่าสุด FTC ก็เพิ่งถูกปรับไปประมาณ 150,000 ล้านบาท (สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการรั่วไหลของ Facebook ได้ ที่นี่ )
CA มีประวัติอันยาวนานในการหาเสียงทางการเมือง ลูกค้ามักเป็นฝ่ายขวาจัด
CA เป็นบริษัทวิจัยข้อมูลในลอนดอนที่ก่อตั้งโดย CEO Alexander Nix เพื่อวางโครงสร้างการสื่อสารแคมเปญอย่างมีกลยุทธ์ EU หรือ Brexit ก็เป็นงานของบริษัท CA เช่นกัน
SCL ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ CA ปัจจุบันเป็นที่รู้จักดีที่สุดจากแคมเปญทางการเมืองบนโซเชียลมีเดีย แต่ในอดีต SCL ยังสนับสนุนการสื่อสารทางทหารในช่วงสงครามอีกด้วย มันถูกเรียกว่า SCL Defense และใช้เพื่อมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของศัตรู เช่น กระตุ้นให้คนหนุ่มสาวในอิรักไม่เข้าร่วมกลุ่มก่อการร้าย
SCL ใช้วิธีการทางทหารเพื่อส่งเสริมนักการเมืองฝ่ายขวา โมเดลคือการถ่ายทำเนื้อหาของงานลงโซเชียลมีเดีย โดยตั้งเป้าผู้มีสิทธิเลือกตั้งในทุกประเทศทั่วโลกในปี พ.ศ. 2540 เช่น ไนจีเรีย บราซิล อินเดีย รวมทั้งประเทศไทย

สรุปหนัง แฮ็กสนั่นโลก 2019 หลังดูจบ มีข้อความสปอย

วิจารณ์บทหลังดูหนังออนไลน์ จบ

CA อ้างว่ามีจุดข้อมูล 5,000 จุดของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในสหรัฐฯ แต่ละคน และมีวิธีเปลี่ยนเกมเพื่อให้ลูกค้าของตนเองชนะการเลือกตั้ง โดยการสร้างข่าวปลอมเพื่อใส่ร้ายอีกฝ่าย โดยใช้ข้อมูลพฤติกรรมทางโซเชียลมีเดีย (ที่ CA ได้รับมาอย่างผิดพลาด) เพื่อ ส่งไปยังผู้ที่อาจเชื่อคนข่าวปลอม (โน้มน้าวใจ)

งานของ CA ทำให้นักการเมืองพรรครีพับลิกันฝ่ายขวาอย่าง Ted Cruz ได้รับความนิยมในเวลาเพียง 14 เดือน และ Alamo ซึ่งเป็นโครงการที่ CA ทำงานให้กับ Trump ยังคงใช้เงิน 1 ล้านดอลลาร์กับโฆษณาบน Facebook เพื่อเปิดตัวแคมเปญทางการเมืองดังกล่าว
ในการเปิดเผยที่น่าตกใจอีกครั้งหนึ่ง สตีฟ แบนนอน หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งของ CA บริหารเว็บไซต์ข่าว breitbart ฝ่ายขวา มักมีข่าวรุนแรง การเหยียดเชื้อชาติ และวาทศิลป์ที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง และแบนนอนเองก็เป็นที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ของทรัมป์
และสำหรับผู้ที่ไม่มีข้อมูลเชิงลึกหรือต้องการทราบเกี่ยวกับภาพอัปสเกลระดับโลก มีมากมายให้ว้าว เพราะเรายังเห็นเรื่องราวนั้นขยายออกไปในรูปแบบที่นอกเหนือไปจาก Facebook ฉันเพิ่งรู้ว่า Cambridge Analytica ยึดติดกับเรื่องราวล่าสุด เช่น การรณรงค์ให้ออกจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit และเวทีของอังกฤษแห่งนี้ยังเป็นพื้นที่สำคัญที่ Cambridge Analytica จะถูกเชือดอีกด้วย
ส่วนหนึ่งของความลึกลับที่ยังไม่ไขของฉันมาจากการนำเสนอของ Cambridge Analytica โดยอ้างว่าเหตุการณ์ต้มยำกุ้งในประเทศไทย พ.ศ. 2540 เป็นปฏิบัติการที่ Cambridge Analytica มีส่วนเกี่ยวข้อง ข้อมูลของใครแม่นยำในเวลานั้น และเมื่อพวกเขารู้แล้ว คุณช่วยอธิบายได้ไหมว่ากลุ่มนักจิตวิทยาสารสนเทศของเราเสพยาโดยไม่รู้ตัว?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *