รีวิว metal lord

รีวิว metal lord

รีวิว metal lord

รีวิว metal lord

ดูหนังเถื่อน ฉายใน Netflix เป็นที่เรียบร้อย และวันนี้ก็จะมา รีวิว Metal Lords หนังสำหรัยชาวหูเหล็ก ที่บอกเลยว่า Inzpy โคตรอิ่มเอมหัวใจ และรู้สึกเติมเต็มมาก ๆ กับการได้ดูหนังเรื่องนี้ครับ นอกจากนนี้เรายังเอาเพลย์ลิสต์สุดเฮฟวี่มาให้ทุกท่านได้ฟังด้วย ใครที่ไม่เคยฟังเพลงแนวนี้ ลองเปิดใจดูครับ มันดีกว่าที่คิดจริง ๆ รีวิว metal lord รีวิวหนังสนุก ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

Metal Lords เรื่องรางของ ฮันเตอร์ และ เควิน สองเพื่อนซี้ที่แทบจะไม่มีใครคบ พร้อมกับความฝันการก้าวขึ้นไปเป็นที่ยอมรับในโรงเรียน ด้วยเพลง เมทัล ของ ฮันเตอร์

ฮันเตอร์ เด็กหนุ่มผมยาว ตัวผอมบางกับอาการคลั่งเพลงเมทัลสุดขีด เขาฝึกหนัก เลียนแบบวัฒนะธรรม และแต่งเพลงเมทัล และตั้งวงขึ้นมากับเพื่อนซี้ของเขาที่นิสัยโคตรจะต่างขั้วกันอย่าง เควิน เพราะตัวของเควินนั้นดูเนิร์ด ต่างกับฮันเตอร์ ที่ห่าม ตัวของเควินเองแทบจะไม่รู้จักเพลงเมทัลเลย เขาเพียงแค่ตีกลองเป็น

แต่จากจุดนี้เอง ฮันเตอร์เล่นกีต้าร์และร้องนำ ส่วนเควิน ตีกลอง มันก็เพียงพอแล้วที่พวกเขาจะตั้งวงที่ชื่อว่า Skull Fucker ขึ้นมา โดยเป็นวงที่เล่นแนว Post-Death Metal ซึ่งไอ้เพื่อนรักอย่าง เควิน ก็พยายมเต็มที่ เพื่อเพื่อนที่มีอยู่คนเดียวของเขา จนกระทั่ง ได้มาเจอกับ เอมิเลีย เด็กสาวที่มีปัญหาด้านอารมณ์แต่เล่นเชลโล่เก่งมาก

ขณะที่ Skull Fucker มีเป้าหมายที่จะเอาชนะการประกวด Band of battle ให้ได้ แต่ทั้งนี้วงของพวกเขายังขาดสมาชิกอีกหนึ่งคน ซึ่งเควินก็พยายามที่จะผลักดัน เอมิเลย แต่นั่นแหละปัญหา เพราะ ฮันเตอร์ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ยังความวุ่นวายต่าง ๆ การแข่งขัน และการกลั่นแกล้งกัน ที่บอกเลยว่าพอรวม ๆ กันแล้ว มันคือหนังที่ออกมาหลายอารมณ์มากจริง ๆ

รีวิว metal lord

ทั้งตัวของเอมิเลียที่มีปัญหาด้านอารมณ์ ตัวของฮันเตอร์ที่ลึก ๆ แล้ว เหมือนเด็กมีปัญหา หรือตัวเควินเอง ที่ต้องคอยเรียนรู้ และต่อสู้เพื่อตามใจเพื่อนซี้

นี่แทบจะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรก ๆ ครับที่พูดถึงเพลงเมทัลแบบสุดลิ่มทิ่มประตู เพลงประกอบเป็นเพลงเฮฟวี่เมทัลทั้งหมด (มี 2 เพลงที่ไม่ใช่) ในบางฉากมีการบรรเลงเพลงเมทัลประกอบขึ้นมา หรือบางซีนที่พูดไป คุยไปก็มีดนตรีเมทัลบรรเลงคลอเคลียอยู่ข้างหลัง

คือผมบอกเลยว่า Metalhead อย่างผมยิ่งดูยิ่งถูกใจ (บอกแล้วว่าเป็นหนังที่ทำมาเอาใจชาวเมทัล) Metal Lord นั้นดำเนินเรื่องสนุกนะครับ ดูไปเรื่อย ๆ อาจจะมีฉากน่าเบื่อบ้าง แต่ก็เพียงเล็กน้อยส่วนที่ดูไร้เหตุผล เอาจริง ๆ ก็ไม่มีนะ แค่การไม่มีฉากที่ดูไร้เหตุผล หนังมันก็ไม่แย่แล้วครับ

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมชอบคือ การเล่าเรื่อง ในบ้างช่วงบางตอน ที่ทำมาแบบ ซีนนี้เท่แน่ มาแน่ แต่…. หรือสวีท ๆ ที่ช่วยยืนยันว่า หนังเรื่องนี้หลายอารมณ์จริง ๆ ในบางจุด สามารถเล่นกับความรู้สึกได้เยี่ยมเลยนะ แต่ตัวหนังก็ฟีลกุ้ดแหละ ไม่ได้มีอะไรกดดัน หรือชวนเครียดแต่อย่างใด

และเจาะลงไปในรายละเอียดลึก ๆ มีการแอบเปรียบเทียบ แอบแข่งขันกันของเพลงป็อป และเพลงเฮฟวี่เมทัล ด้วยนะ เพราะมันก็มีสาเหตุที่ว่า เพลงป็อป กับเมทัลต้องมาแข่งขันกัน แต่กระนั้น มันก็มีจุดลงตัวที่ทำให้รู้สึกว่า โลกของดนตรีมันเปิดกว้างมากจริง ๆ

ตัวนักแสดง แสดงได้ดีครับ ทุก ๆ คนเลย ทั้ง Jaeden Martell ที่รับบท เควิน ที่นอกจากหล่อแบบเนิร์ด ๆ และมันทำให้รู้สึกว่า ไอ้เด็กนี่มันตามเพื่อนมันจริง ๆ นะ มันไม่ร็อกเลยว่ะ, Adrian Greensmith ในบทของฮันเตอร์ ที่เอาจริงลุคน้องแกได้นะ แต่งขึ้น หุ่นแห้ง ๆ แบบนี้ร็อกจัด และ Isis Hainsworth ที่สวยเชียว แต่ซีนอารมณ์ ซีนที่ต้องสำรอก นางทำได้ดีนะ ชอบเลย

รีวิว metal lord

Metal Lords ดูได้เพลิน ๆ ครับ อย่าไปคิดอะไรมากในการดู คิดซะว่ามันดูวิถีเมทัล แบบเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะเข้าวงการเมทัล ไม่นาน การเรียนรู้ และซึมซับวัฒนธรรมชาวร็อกต่าง ๆ

ซึ่งตรงนี้แหละที่ชอบ เพราะผมรู้สึกว่า หนังใส่ใจรายละเอียดอะไรตรงนี้มาก ๆ เลยนะ การแต่งตัว พฤติกรรมของตัว ฮันเตอร์ การฝึกซ้อม การค่อย ๆ พัฒนาของตัวเควิน รวมไปกับการเล่าเรื่อง และเสียงดนตรีเมทัล มันเข้ากันแบบบอกไม่ถูก เวลาดูและฟังเพลง รู้สึกว่าตัวเองนั่ง กระดิกเท้าตลอดเวลา (ฮา)

และที่สำคัญคือฉากสุดท้าย ที่ทุกคนก็คงเดาได้แหละว่ายังไงมันก้ต้องมี การเล่นดนตรีแบบเต็มวง ผมชอบมาก ผมว่าเขาดีไซส์ออกมาได้ได้ ที่สำคัญเพลงประกอบอย่าง Machinery Of Torment ซึ่งเป็นเพลงที่วง Skull Flower เอาขึ้นไปเล่นนั้นติดหูดีเหลือเกินครับ

และเรื่องราวยังเพิ่มปมสูตรสำเร็จความรักวัยรุ่นเข้ามาอย่างเก๋ไก๋มาก ด้วยการให้ตัวเอกคนที่สามคือ เอมิลี่ (รับบทโดย Isis Hainsworth) สาววัยรุ่นที่ชอบเล่นเชลโล่ และมีปัญหาความบกพร่องทางจิต เป็นโรคควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ในหนังไม่ได้ลงลึกกล่าวชี้ชัดว่าเธอเป็นโรคอะไรกันแน่ แต่ก็คือต้องกินยาสม่ำเสมอ

ด้วยความที่เป็นโรคนี้เธอจึงมีปัญหาในการเข้าสังคมในระดับหนึ่งเช่นกัน (แต่อาจจะน้อยกว่าสองคนนั้น) ซึ่งบทได้จับให้เธอมาเข้าตาเควินที่มองเห็นพรสวรรค์ด้านเมทัลของเธอผ่านเชลโล่ที่มันดูเข้ากันไม่ได้มากๆ ในสายตาฮันเตอร์ จนทำให้จุดนี้กลายเป็นยิ่งทำให้ปัญหาความแตกแยกทางความคิดของทั้งคู่หนักขึ้นไปอีก และกลายเป็นผู้หญิงมือที่สามที่เข้ามาบั่นทอนทำลายความสัมพันธ์ของทั้งคู่จากสายตาฮันเตอร์โดยตรง (โดนหาว่าเป็นโอโนะ) กลับกันความสัมพันธ์ของเควินกับเอมิลี่กลายเป็นยิ่งรู้จักยิ่งคลิ๊กมากขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งหนังทำออกมาโดยใช้ปมความซิงของทั้งคู่กับวิถีการเป็นเมทัลที่ซิงไม่ได้ให้มาคลิ๊กจอยกันได้อย่างน่ารักมากๆ นักแสดงทั้งคู่ก็มีเสน่ห์แบบเด็กๆ โดยเฉพาะตัวนักแสดงเอมิลี่อาจจะดูไม่สวยแต่น่ารักแบบขึ้นกล้องมากๆ (ขนาดว่าในบทต้องเล่นเป็นสาวเนิร์ดมีปัญหาทางจิต) จนรู้สึกว่านี่ก็เป็นหนังรักใสๆ อารมณ์แบบเดียวกับที่ Sing Street เคยทำไว้ได้เช่นกัน (ใน Sing Street จะเป็นเด็กหนุ่มรักสาวรุ่นพี่ข้ามรุ่น)

ตัวหนังร้อยเรียงความสัมพันธ์ของทั้ง 3 คนผ่านการเข้าสู่วิถีเมทัลได้อย่างสนุกสนาน รัก ตลก เศร้า ซึ้งนิดๆ ครบรสแบบไม่มาก ไม่น้อยไป ทุกอย่างกำลังดีไปหมด และก็ทำให้คนดูที่ไม่รู้จักเมทัลได้รู้จักเรื่องราวเพิ่มมากขึ้น ทั้งประวัติศาสตร์วงต่างๆ ที่ถูกเล่าเปรียบเทียบกับการทำวงของตัวละครในเรื่อง แนวคิดสุดโต่งของคอเมทัลผ่านตัวละครฮันเตอร์ที่มักทำอะไรแปลกๆ คาดไม่ถึงอยู่เรื่อยๆ

จนกลายเป็นมุกตลกฮาตลอด บทพูดของตัวละครในเรื่องค่อนข้างหยาบคายสไตล์เมทัลจนติดเรต R จากตรงนี้ไปโดยเฉพาะ (ในเรื่องไม่มีฉาก SEX ไม่มีเล่นยา ) และยังมีเชิญนักดนตรีในวงดังมาร่วมแสดงเป็นกิมมิคเสริมเรื่องราวเพิ่มอีกด้วย

ถึงหนังจะทำได้ดีในการเล่าปมปัญหาชีวิตของตัวละครให้ออกมาสนุก แต่จุดด้อยของเรื่องก็คงเป็นว่าตัวหนังแนวดนตรีก็จริง แต่แทบจะไม่มีการเล่นเพลงให้เห็นระหว่างเรื่องเต็มๆ เลย มีแค่บางท่อนผ่านการซ้อมของทั้งคู่ ซึ่งก็ไม่ได้นับว่าเป็นช่วงซีนขายเพลงแบบที่แนวนี้ควรจะมีมากกว่านี้ และตัวเอมิลี่เองที่คนน่าจะรอดูการเล่นเชลโล่เมทัลว่าจะออกมายังไงก็ถูกกั๊กไว้จนท้ายเรื่องสุดๆ ค่อยให้เราได้เห็น

แต่ก็ถือว่าฉากสุดท้ายในงานประกวดวงดนตรีหนังทำออกมาได้ถึงสมกับที่รอคอย คือเชื่อได้เลยว่าผู้ชมแม้ไม่ใช่คอเมทัลก็ยังต้องสนุกมันส์กับการเล่นดนตีแบบสุดชีวิตจากทั้ง 3 คนแน่ๆ ซึ่งกลายเป็นเหมือนหนังพึ่งเริ่มต้นเรื่องราวของวงเท่านั้น แอบคิดว่าผู้สร้างอาจจะอยากเล่าเรื่องภาคต่อจากตอนจบนี้ด้วยซ้ำถ้าเสียงตอบรับจากผู้ชมดีพอครับ (ซึ่งตอนนี้ถือว่าฝั่งผู้ชมให้คะแนนดีมาก แต่นักวิจารณ์ให้กลางๆ ค่อนมาทางดี)

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *