รีวิว interview with the vampire

Interview with the Vampire เป็นหนังเล่าเรื่องแวมไพร์ตั้งแต่ปี 1994 อายุเกือบสามสิบปีแล้ว แต่พอกลับมาดูวันนี้แล้วพบว่าหนังมีความสมบูรณ์แบบมาก ตั้งแต่ตัวนักแสดงที่ได้ แบรด พิตต์ และทอม ครูซ โดยธีมของหนังเป็นการเล่าเรื่องราวของแวมไพร์ที่มีอายุมากกว่า 200 ปี ให้กับคนคนนึงฟัง แล้วหนังก็ดำเนินไปตามเรื่องเล่านั้น รีวิว interview with the vampire รีวิวหนังสนุก

ลูอิส ตอนยังเป็นคนธรรมดาเมื่อสองร้อยปีก่อนประสบความทุกข์จากการจากไปของภรรยาและลูกในครรภ์ เขายินดีต้อนรับความตาย จนกระทั่ง ลีสแตต แวมไพร์ตนหนึ่งได้มามอบชีวิตใหม่ให้กับลูอิส ชีวิตที่ไม่มีการเจ็บป่วย ไม่มีความตายไปตลอดกาล แต่ต้องกินอาหารมนุษย์ไม่รู้รส มีความกระหายเลือด ห้ามกินเลือดจากศพ (สิ่งมีชีวิตที่ตายแล้ว) หากเจอแสงแดดก็จะกลายเป็นเถ้าถ่านจากโลกนี้ไปตลอดกาล เว็บดูหนัง

ช่วงระหว่างที่ลูอิส ยังอยู่กับ ลีสแตต พวกเขามีความไม่เข้ากันหลายประการ ทั้งเรื่องของลูอิสที่ยังมีจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์อยู่มาก ในขณะที่ลีสแตตมองมนุษย์เป็นแค่เหยื่อหรือเครื่องมือตอบรับความปรารถนาของเขาเท่านั้น ลีสแตตจึงสร้างแวมไพร์จากเด็กสาวอายุน้อยคนหนึ่ง คลอเดีย ให้เธอเป็นลูกของพวกเขาสองคน ผูกพวกเขาสองคนไว้ด้วยกัน

จนกระทั่งเมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า คลอเดียดันกลายเป็นฉนวนที่สร้างรอยร้าวให้กับความสัมพันธ์ของทั้งสองเสียเอง คลอเดียอยากไปจากลีสแตต อยู่กับลูอิสเพียงสองคน แต่ทว่าในเมื่อลีสแตตคงไม่ยอม คลอเดียจึงวางแผนฆ่าเขา โดยการให้เขาดื่มเลือดจากศพคนตายให้เขาอ่อนแรงลง จนกระทั่งคลอเดียเชือดคอเขาพร้อมกับพาร่างไปทิ้งในบ่อจระเข้า คาดหวังว่าเขาจะตาย แต่ไม่เลย ความสามารถพิเศษของลีสแตตคือบาดแผลที่หายได้อย่างรวดเร็ว ลีสแตตกลับมาหาทั้งคู่ ลูอิสที่อยากปกป้องคลอเดีย จึงเอาตะเกียงแอลกอฮอล์จุดไฟเผาเขาทั้งเป็น จากนั้นลูอิสและคลอเดียก็เดินทางไปสู้โลกเก่า หรือทวีปยุโรป เว็บดูหนังฟรี

ในการเดินทางไปทวีปยุโรป ลูอิสต้องการตามหาต้นกำเนิดของแวมไพร์ แต่ไม่ว่าเขาจะเดินทางไปที่ไหนก็ไม่เจอ จนเมื่อเขาจะล้มเลิกก็เจอกับแวมไพร์กลุ่มหนึ่งที่แฝงตัวทำโรงละคร ภายใต้โรงละครเป็นรังของแวมไพร์ขนาดใหญ่ แต่เมื่อแวมไพร์เหล่านี้รับรู้ว่าคลอเดียเป็นคนฆ่าลีสแตต พวกเขาต้องการลงโทษเธอ เพราะเธอละเมิดกฎที่สำคัญของแวมไพร์คือการฆ่าพวกเดียวกันเอง คลอเดีย ถูกลงโทษให้เจอกับแสงแดดจนกลายเป็นเถ้า

ลูอิสโกรธมากจนวางเพลิงเผาโรงละคร เผาแวมไพร์ทั้งหมด ยกเว้นตนที่ช่วยเขาไว้ นับว่าเป็นการจบหน้าแวมไพร์ในทวีปยุโรป เขาเดินทางกลับไปบ้านเกิดของเขาอีกครั้ง จนพบว่าลีสแตตยังมีชีวิตอยู่ แต่ทว่าเป็นการพบเพื่อจากลา เขาแยกทางกับลีสแตต ไปดำรงชีวิตที่ว่างเปล่าของตัวเอง เรื่องเล่าทั้งหมดจบลงแค่นี้

อาวุธลับอันทรงประสิทธิภาพของแวมไพร์ คือ เสน่ห์อันรัญจวนยวนใจ ยั่วให้คนหลงใหลไปกับมัน เหยื่อน้อยใหญ่เมื่อโดนอาวุธนี้แล้วก็ยากจะหนีพ้น บ้างก็หลงใหลรูปโฉมชวนพิสมัย บ้างพอสัมผัสก็ปลุกตัณหาหลากประการขึ้นมาในดวงจิต บ้างก็เกิดปรารถนาอยากกลายเป็นแวมไพร์เลยก็มี

ด้วยอำนาจเหล่านี้เองที่ทำให้เหยื่อมากมายมีสภาพไม่ต่างจากแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ยากจะถอนตัวถอนใจให้พ้นคมเขี้ยวได้และหนังเรื่องนี้ก็ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยอาวุธชนิดนั้นInterview with the Vampire สร้างจากนิยายขายดีตั้งแต่ปี 1976 ของ Anne Rice ซึ่งเคยแปลเป็นไทยในชื่อว่า “ตำนานเลือด” ซึ่งตัวนิยายนั้นได้รับความนิยมมากจนถึงปัจจุบัน พิมพ์จำหน่ายไปทั่วโลกแล้วกว่า 8 ล้านก็อปปี้ (ตัวเลขนี้มาจากสถิติที่มีการบันทึกไว้ในปี 2008) หนังฟรี

ตอนแรกนั้น Rice ไม่ได้ตั้งใจเขียนเรื่องออกมาเป็นนิยายหรอกครับ เธอเริ่มจากลองเขียนเป็นเรื่องสั้นความยาว 30 หน้าเมื่อปี 1968 โดยรูปแบบเรื่องสั้นออกมาในแนวบทสัมภาษณ์ระหว่างนักข่าวกับแวมไพร์ ครั้นพอเวลาล่วงมาถึงปี 1973 เธอก็อยากจะลองขยายเรื่องให้กลายเป็นนิยาย โดยใช้เวลา 5 สัปดาห์สร้างสรรค์เรื่องออกมาเป็นนิยายความยาว 338 หน้า โดยเธอจะค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแวมไพร์ในตอนกลางวัน ก่อนจะนำไปเรียบเรียงเขียนในตอนกลางคืน

ตัวนิยายประสบความสำเร็จมากจนมีเล่มต่อออกมาอีก 12 เล่ม เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในนิยายว่าด้วยแวมไพร์ที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดเรื่องหนึ่งทีเดียว

จริงๆ แล้วนิยายเรื่องนี้ถูกเล็งจะเอามาสร้างเป็นหนังเมื่อนานมาแล้วนะครับ ก่อนจะมีการตีพิมพ์ด้วยซ้ำ โดยค่าย Paramount Pictures เสนอว่าจะซื้อสิทธิ์นิยายไปทำเป็นหนัง ด้วยสนนราคา 150,000 เหรียญ มีการวางตัวไว้ว่าจะให้ John Travolta ที่กำลังฮ็อตสุดๆ มาแสดงเป็นเลสตัท แวมไพร์หนึ่งในสองตัวเอกผู้แสนจะร้ายกาจพอๆ กับที่เขาเปี่ยมเสน่ห์ หนังใหม่

แต่ระยะนั้นมีโครงการทำหนังแวมไพร์ออกมาเพียบ อย่าง Dracula (เวอร์ชั่น 1979 แสดงโดย Frank Langella), Nosferatu: Phantom der Nacht (งานรีเมคที่มี Klaus Kinski นำแสดง) และ Love at First Bite (หนังตลกล้อเลียนแดร็กคูล่า นำแสดงโดย George Hamilton) ทำให้ Interview with The Vampire ถูกชะลอไปนานหลายสิบปีทีเดียว

จนกระทั่งต้นยุค 90 โครงการหนังเรื่องนี้ถึงได้กลับมาอีกครั้ง โดยผู้กำกับ Neil Jordan ที่ตอนนั้นเพิ่งเข้าชิงออสการ์จาก The Crying Game ถูกวางตัวให้มากุมบังเหียน โดย Rice เป็นคนดัดแปลงจากนิยายมาสู่บทภาพยนตร์ด้วยตนเอง ก่อนที่ Jordan ก็ต้องมาเกลาบทใหม่ (เกือบทั้งหมด) อีกครั้งให้มันออกมาลงตัวที่สุด ดูหนังฟรี

แล้วก็มาถึงขั้นตอนเลือกคนแสดง เริ่มจากบทเลสตัท ที่ Rice บอกไว้ว่าระหว่างที่เธอเขียนนั้น เธอจินตนาการถึงเลสตัทโดยมีภาพ Rutger Hauer อยู่ในหัว แต่ในตอนนั้น Hauer ก็อายุเกินจะมาเล่นบทนี้ได้แล้ว Rice เลยมองไปที่ Julian Sands ที่เธอเห็นว่าเหมาะที่สุด แต่เนื่องจาก Sands ยังไม่เป็นที่รู้จักสักเท่าไร ทำให้ทีมงานตัดสินใจเลือกดาราคนอื่นแทน โดยมีตัวเลือกอย่าง Johnny Depp, Jeremy Irons, John Malkovich, Peter Weller, Alexander Godunov และ Brad Pitt แต่คนที่ได้รับเลือกในท้ายสุดคือ Tom Cruise

พอผลออกมาแบบนั้น ปรากฏว่า Rice ไม่พอใจอย่างแรงครับ เธอออกมาต่อต้านแบบชัดเจนว่ายังไง Cruise ก็ไม่เหมาะกับบทเลสตัท และยังบอกว่าเธอจินตนาการไม่ออกเลยว่าหนังเรื่องนี้จะออกมาดีได้อย่างไร หากตัวละครสำคัญของเรื่อง ถูกรับบทโดยดาราที่ไม่เหมาะสมแบบนี้ ดูหนังออนไลน์

ในขณะที่บท หลุยส์ แวมไพร์ตัวหลักคู่กับเลสตัทนั้น Rice จินตนาการจากนักแสดงฝรั่งเศส Alain Delon และคนที่มาสวมบทนี้ก็คือ Brad Pitt ครับ อย่างที่ทราบว่าตอนแรกทีมงานเล็งเขาเป็นตัวเลือกแสดงบท เลสตัท แต่ด้วยใบหน้าอ่อนโยนและท่าทางขบถนิดๆ ทำให้บทหลุยส์ตกเป็นของเขา

เมื่อทุกอย่างพร้อมหนังก็สำเร็จเรียบร้อยออกมาครับ (ท่ามกลางเสียงคัดค้านอยู่เนืองๆ โดย Rice ที่ยังคงไม่สบอารมณ์กับ Tom Cruise อยู่) เนื้อเรื่องก็ว่าด้วยแวมไพร์นามว่า หลุยส์ เดอ ปองดูลัค (Pitt) ได้นัดหมายให้นักข่าว แดเนี่ยล มัลลอย (Christian Slater) มาสัมภาษณ์เรื่องราวประวัติชีวิตของแวมไพร์เช่นเขา

หลุยส์เริ่มเล่าตั้งแต่ตอนเขายังเป็นมนุษย์ เป็นเจ้าของไร่ อาศัยอยู่ที่หลุยส์เซียนน่า ก่อนจะหมดอาลัยตายอยากหลังจากภรรยาจากไป และไม่นาน เลสตัท (Cruise) แวมไพร์ผู้ทรงเสน่ห์ก็ปรากฏตัวพร้อมเสนอจะมอบชีวิตอมตะให้กับเขา ในที่สุดเลสตัทกับหลุยส์ก็เป็นคู่หูแวมไพร์ที่ออกท่องไปทั่วโลก ส่วนเนื้อเรื่องถัดจากนั้นขอแนะนำให้ไปดูกันต่อนะครับ เพราะไม่ว่าผมจะเล่าอย่างไรก็คงไม่ให้อารมณ์ครบเครื่องได้ เท่ากับดูให้เห็นกับตาในหนังน่ะครับ

ถือเป็นหนังเรื่องแรกที่ทำให้ผมรู้จักแวมไพร์ในมิติใหม่ เพราะปกติเราจะเห็นแวมไพร์เป็นตัวร้าย เป็นผีดิบที่ไล่ดูดเลือดคน เป็นศัตรูที่ต้องโดนตัวเอกเอาหมุดตอกอกเพื่อกำจัดหรือไม่ก็โดนแดดเผาให้สิ้นซากไป ว่าง่ายๆ คือหาดีไม่เจอเลยสำหรับสิ่งที่เรียกว่าผีดูดเลือด