รีวิว the man from toronto
หนังตลกคู่หูคู่ฮาตามสูตร แต่มีอะไรดีๆ มากกว่าที่เห็นเยอะ ด้วยนักแสดงนำวูดดี แฮร์เรลสัน กับ เควิน ฮาร์ท ที่ลงตัว บทพูดกับฉากฮาหน้าตายกับฉากแอ็กชั่นเว่อร์ๆ ชวนขำ ที่ระดมยิงมาแทบไม่หยุด แล้วก็ขำจริงไม่แป๊ก ฮากันตั้งแต่แรกยันเอนด์เครดิต (พากย์ไทยดีมาก ตลกกว่าซับ) รีวิว the man from toronto รีวิวหนังสนุก
เสริมด้วยพาร์ทชีวิตครอบครัวซึ้งนิดๆ มีดราม่ามุมชีวิตผู้ชายของทั้งคู่ที่ต่างกันสุดขั้ว แต่แอบมีอะไรเหมือนกันเข้ามากำลังดี นอกจากนี้ตัวเรื่องยังวางตัวเองเป็นหนังแฟรนไชส์จักรวาลนักฆ่าแบบอ่อนๆ ด้วยรหัสโค๊ดเนมจากชื่อเรื่องที่ต่อยอดได้อีกมากมายบานตะไทอีกด้วย ใครมองหาหนังฮาบน Netflix ต้องไม่พลาดเลย
The Man from Toronto ชายจากโตรอนโต หนังตลกแอ็กชั่น ของวูดดี แฮร์เรลสัน แสดงนำร่วมกับ เควิน ฮาร์ท ตลกเดี่ยวไมค์โครโฟนชื่อดังที่หันมาเอาดีทางด้านการแสดงในช่วงหลังติดๆ กัน บน Netflix แต่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นโปรเจ็กต์ของ Netflix โดยตรง แต่เป็นของโคลัมเบียพิคเจอร์ ทุนสร้าง 75 ล้านเหรียญ วางแผนจัดจำหน่ายฉายในโรงภาพยนต์โดยโซนี่ ตั้งแต่ปี 2020 แต่สถานการณ์โควิดทำให้เลื่อนมาเรื่อยๆ จนได้มาลง Netflix แทน
Teddy Jackson ชายผู้พยายามทำอะไรก็ไม่สำเร็จ แต่เขาก็มีแฟนที่แสนดีคนหนึ่งและพยายามจัดงานฉลองวันเกิดที่ดีที่สุดให้เธอ ด้วยการจองกระท่อมผ่าน Airbnb หวังจัดงานที่นั่น แต่ปริ้นท์หมึกหมดทำให้ตัวเลขที่อยู่ไม่ชัด เขาดันไปผิดที่ ผิดทางกลายเป็นสถานที่รับจ๊อบงานนักฆ่าระดับพระกาฬที่มีระหัสลับว่า ชายจากโตรอนโต ที่จ้างมาด้วยเงิน 2 ล้านเหรียญ และความซวยบังเกิดเมื่อผู้จ้างดันเชื่อว่าเขาเป็นนักฆ่าจริงๆ จนทำให้โตรอนโตตัวจริงต้องใช้ให้เขารับหน้าทำงานแทนเพื่อปิดจ๊อบชิ้นโตนี้ให้ได้ เว็บดูหนัง
ต้องบอกเลยว่าผิดคาดมากๆ กับพล็อตหนังตลกสไตล์คู่หูแปลกหน้ามาร่วมภารกิจกัน เป็นพล็อตสูตรสำเร็จที่เกร่อสุดๆ แต่เรื่องนี้ก็ยังมีอะไรดีๆ หลายอย่างอยู่ในสูตรสำเร็จแบบนี้ได้ อย่างแรกเลยมันคือ หนังที่วางตัวเองให้เป็นแฟรนไชส์ภาคต่อยาวๆ กันแต่แรก ด้วยการเซ็ตโลกจักรวาลนักฆ่าแบบจอห์นวิคแบบอ่อนๆ ที่ตัวละครนักฆ่าตัวเอกใช้รหัสว่า ชายจากโตรอนโต ตามชื่อเรื่อง แต่ไม่ได้มีเขาเพียงแค่คนเดียว เว็บดูหนังฟรี
แต่มีนักฆ่ารหัสลับแบบนี้อีกเพียบจากทุกเมืองในโลก ซึ่งโตรอนโตนักฆ่ารุ่นเก๋าที่ดูเก่าไปแล้วในสายตาของนักฆ่าคนอื่นๆ และอยากจะวางมือจากเรื่องนี้ตามสูตร ซึ่งในวงการนี้มันเป็นไปไม่ได้ นี่จึงเป็นหนังที่วางตัวเองเลยว่าทำต่อกันยาวๆ แน่
อย่างสองคือการที่ได้ เควิน ฮาร์ท ตลกของจริงมาเล่นเป็นตัวตลกคู่หูคู่ฮากับตัวละครนักฆ่า เควินในเรื่องนี้เล่นเป็นชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตจอมปลอมหลอกเมียไปวันๆ ว่าตัวเองมีดี แต่จริงๆ คือไอ้เห่ยสุดๆ ของแท้ แต่ดันมาบังเอิญได้มาสวมรอยเป็นนักฆ่าสุดเหี้ยม ซึ่งบทแค่นี้ก็ฮาแล้ว เพราะรูปลักษณ์ตัวเควินเองยังไงก็ไม่ใช่ไอ้เหี้ยมนั่นได้อยู่แล้ว พอได้สวมบทเป็นอะไรที่ย้อนแย้งกับตัวเอง แล้วยังได้ใส่คาแรกเตอร์พูดมากเข้าไปในตัวนักฆ่าจริงที่ต้องขรึมๆ
มันเลยกลายเป็นการขายความฮากันทุกเม็ดตั้งแต่ท่าทาง บทพูด การด้นสดเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ต้องสวมรอยเป็นนักฆ่าได้ฮาขี้แตกขี้แตนเลยทีเดียว (ฮายันเครดิตท้ายเรื่องเลย) และแนะนำให้ดูพากย์ไทยจะเพิ่มความฮากันสุดๆ ยกตัวอย่างศัพท์ กลับบ้านเก่าในซับ ถ้าเสียงพากย์จะเป็น เฝ้ารากมะม่วง นอกจากนี้เสียงคนพากย์ของไทยยังดีมากเข้ากับตัวละครเป๊ะๆ แบบไม่มีติดขัดเลย หนังฟรี
แล้วก็ไม่น่าเชื่อว่าเคมีของทั้งคู่จะเหมาะเจาะเข้าขากันมากๆ คือเควินนี่ฮาแน่นอนอยู่แล้ว แต่พอได้ประกบวูดดี้สายขรึมแต่จริงๆ คือมุกฮาหน้าตายเข้าไปนี่กลายเป็นคู่หูคู่ฮาเข้าไปอีก แล้วบทก้วางความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ดูเหมือนเป็นไปไมไ่ด้ ไม่น่าเชื่อในตอนแรกว่านักฆ่าจะยอมปล่อยให้ไอ้เห่ยคนนึงสวมรอยเป็นเขาได้ แต่บทมันก็แถไปได้เรื่อยๆ จนเราคล้อยตาม และทำให้เห็นแง่มุมอีกด้านของทั้งคู่ที่แลกเปลี่ยนกันไปมากลายเป็นมิตรภาพดีๆ
ชวนซึ้งได้หน้าตาเฉย แบบว่าจากหนังตลกก็ทำเอาเราตื้นตันได้ขึ้นมา ด้วยการให้เวลากับรายละเอียดเล็กๆ ในพาร์ทครอบครัวของทั้งคู่ที่ปกติเป็นแค่พล็อตเสริมใส่มางั้นๆ แต่เรื่องนี้ค่อนข้างจริงจังกว่าในแง่ชีวิตคนสองคนต่างั้วกันลิบลับ แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็แอบมีอะไรเหมือนกันในแง่ของความเป็นมนุษย์ผู้ชายที่ต้องการความรักจากผู้หญิงอยู่ดี เป็นพาร์ทส่วนเสริมที่เข้ามาเติมเต็มทำให้เรื่องนี้ดูมีอะไรมากกว่าหนังตลกสุดๆ ทีเรื่องทำได้ดีอยู่แล้ว หนังใหม่
และด้วยงานโปรดักชั่นลงโรงที่ไม่ใช่หนังทุนต่ำ เรื่องนี้จึงมีฉากแอ็กชั่นระห่ำสนุกๆ หลายฉากอัดแน่นเข้ามาได้เรื่อยๆ เลย มีฉากโลดโผนเว่อร์ๆ ที่ใช้ CG เข้ามาช่วยเยอะ อาจจะไม่เนียนมาก แต่ก็พอมองข้ามได้เพราะฉากพวกนี้มันครีเอทมาเพื่อเป็นมุกตลกมากกว่าจะมาเน้นเนียนไม่ให้คนดูจับผิดได้แบบหนังแอ็กชั่นเต็มตัวก็ไม่ใช่ คือจะมองว่าเป็นหนังสายลับทำภารกิจกันก็ได้ เพราะจริงๆ แล้วเรื่องก็วางในแนวนั้นมากกว่ายิงๆ ฆ่าๆ กันอยู่แล้ว ในเรื่องไม่ได้มีฉากคนตายหรือฉากสมเหตุผลสักเท่าไหร่ เป็นแค่จักรวาลนักฆ่าออ่นๆ ที่เอามาเรียกเสียงฮาโดยเฉพาะมากกว่า
ถึงคิวอีกหนึ่งหนังที่เหมาะกับการเป็นสูตรสำเร็จของหนังประจำซัมเมอร์ในปีนี้ ไม่มีจะอะไรเหมาะไปมากกว่าหนังแอคชั่นตลก ภารกิจคู่หูแบบจับพลัดจับผลู และนี่คือ “The Man From Toronto ชายจากโตรอนโต” หนังที่มาพร้อมพล็อตง่าย ๆ กับการจับหนุ่มสุดเห่ยมาเจอกับนักฆ่าสุดโหด ฟังแค่นี้ก็รู้แล้วว่า…มันจะต้องบันเทิงและบรรลัยไปคราวเดียวกัน
The Man From Toronto เป็นเรื่องราวของการระบุตัวตนที่ผิดพลาด ซึ่งกลายเป็นความโกลาหลอย่างมหันต์ หลังจากที่ เท็ดดี้ ปรึกษาฝ่ายขาย ผู้ที่เพิ่งจะล้มเหลวจากหน้าที่การงาน กับ แรนดี้ นักฆ่าที่อันตรายที่สุดในโลกซึ่งรู้จักกันในชื่อว่า ‘ชายจากโตรอนโต’ ได้โคจรมาพบกันในที่พักแห่งหนึ่งระหว่างที่เขากับภรรยามาพักร้อนดื่มด่ำในช่วงวันหยุด และทุกอย่างกลายเป็นเรื่องผิดแผนและยุ่งเหยิงกว่าที่คิด ดูหนังฟรี
และนี่ก็คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับ “แพทริค ฮิวจ์ส” จากหนังชุด The Hitman’s Bodyguard ทั้ง 2 ภาค แน่นอนว่าแค่รู้เท่านี้นคุณก็น่าจะพอนึกถึงบรรยากาศของหนังเรื่องนี้ออกได้บ้างแล้วใช่มั้ย? แล้วก็ใช่…เพราะหนังก็มาพร้อมกับสูตรสำเร็จแบบเดิมที่เขาเคยใช้มาจากผลงานหนังเรื่องก่อน องค์ประกอบก็มาคล้ายเดิม แค่เพียงจากบอดี้การ์ดกับมือปืน มาเป็นเซลล์หนุ่มเห่ยกับนักฆ่าโหด
The Man From Toronto ก็คือหนังที่มีสร้างความบันเทิงแบบสูตรสำเร็จโดยเฉพาะ นับตั้งแต่เปิดฉากแรกออกมาในหนัง แทบหาอะไรใหม่ ๆ จากหนังเรื่องนี้ไม่ได้เลย บทหนังค่อนข้างจำเจและใส่สูตรเดิม ๆ ของหนังคู่หูที่เคยเห็นจากหนังเรื่องอื่น ๆ ได้ และซ้ำร้ายเทคนิคงานสร้างต่าง ๆ ก็ค่อนข้างไม่ละเอียด งานซีจีของหนังเรื่องนี้เกือบจะเข้าขั้นเลวร้าย เห็นได้ชัดว่าน่าจะเป็นงานด่วนงานเร่งอยู่ไม่เบาเลย ดูหนังออนไลน์
แต่ทั้งนี้ The Man From Toronto กลับกลายเป็นความบันเทิงที่สามารถตอบโจทย์ผู้ชมได้ตามต้องการ เพราะได้ทีมนักแสดงที่มีพรสรรค์มาช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวและหยอดมุกที่ขำบ้าง..ไม่ขำบ้างไปตลอดทั้งเรื่อง แน่นอนว่านี่ไม่ใช่บทที่ใหม่เลยสักนิดของ “เควิน ฮาร์ต” เราเห็นเขาเคยเล่นหนังแบบนี้มาหลายเรื่องแล้ว มันก็วน ๆ ซ้ำ ๆ อยู่แบบดื่ม แต่อารมณ์ขันและเสน่ห์ทางการแสดงของเขานั้น ก็ยังเป็นจุดเด่นที่่ช่วยประครองหนังเรื่องนี้ไปได้
ในขณะที่ “วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน” ที่บทนี้อาจจะไม่ใช่บทบาทที่ดีของเขา แต่นาน ๆ เราจะได้เห็นเขาเล่นบทที่เบาสมองอะไรแบบนี้ก็ดูเหมือนกัน ตัวละครของเขาเข้ามาเป็นส่วนเติมเต็มให้กับหนังเรื่องนี้ อีกฝั่งเป็นตัวโจ๊กมาเรียกเสียงหา และเขาก็เข้ามาเป็นตัวแทนของความขึงขังและดุดัน เมื่อทั้งคู่โคจรมาเจอในหนังเรื่องนี้ ก็กลายเป็นองค์ประกอบของคู่หูที่ค่อนข้างลงตัว
แม้ว่าในเรื่องนี้จะเน้นหลักอยู่แค่เพียง 2 ตัวละครหลัก แต่ก็ยังมีคาแรกเตอร์สมทบที่น่าสนใจและทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์อยู่รายทาง ไม่ว่าจะเป็น “เคลีย์ คูโอโค”, “เพียร์สัน โฟด”, “เอเลน บาร์กิ้น” หรือ “โทโมฮิซะ ยามาชิตะ (ยามะพี)” ที่มาร่วมสร้างสีสันและสร้างความกลมกล่อมให้กับหนังเรื่องนี้ได้บันเทิงตลอดเกือบทั้ง 2 ชั่วโมงของหนังเรื่องนี้
โดยภาพรวมแล้ว The Man From Toronto ก็ถือว่าเป็นแอคชั่นตลกที่ดูได้เพลินดี หนังอาจจะไม่มีอะไรที่หวือหวาและน่าตื่นตาใด ๆ แต่เพราะสูตรสำเร็จที่ใส่เข้ามาก็ยังทำให้หนังพอถูไถไปได้ จังหวะต่าง ๆ ค่อนข้างลงตัวได้ดี ด้วยความเป็นมืออาชีพของนักแสดงโดยเฉพาะ อย่างน้อย ๆ หนังก็สามารถทำให้เรารู้สึกบันเทิงได้ดีอยู่ ยังทำให้หัวเราะได้แม้จะใช้มุกล้อเลียนอีเมล์ Hotmail ก็ตามที
เคมีคู่นักแสดงระหว่าง เควิน ฮาร์ต กับ วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน ถือว่าใช้การได้ดีทีเดียว เดิมทีบทดังกล่าวเป็นของ “เจสัน สเตธัม” แต่เพราะแผนงานกระทบจากโควิด ทำให้เขาตัดสินใจถอนตัวไปในนาทีสุดท้าย และได้วู้ดดี้มารับบทแทน ก็ถือว่าเป็นการจับคู่นักแสดงที่ค่อนข้างลงตัว และเป็นการใช้มืออาชีพมาสร้างสรรค์ผลงานหนังตลกแบบไม่มีสาระใด ๆ ออกมาให้ได้บันเทิงและเพลินได้ดี